ท่าง่ายๆ ไว้เรียนรู้
- Admin
- Feb 6, 2019
- 1 min read
ทำไมต้องฝึกโยคะจากท่าง่าย เพราะเราเรียนรู้ความปกติของตัวเองในท่าง่ายได้ง่ายกว่าในท่ายาก
แปลว่า ในขณะที่เราฝึกท่าง่ายๆ นั้น
เราจะสามารถเรียนรู้จักร่างกายของเราได้มากกว่า
สิ่งต่างๆ ที่เราต้องรู้มีอะไรบ้าง 1. ลักษณะของลมหายใจที่เป็นปกติ 2. ลักษณะของกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ ที่อยู่ในมุมที่ปกติ แม้เกิดการตึง
ก็เป็นการตึงในลักษณะยืดเหยียดให้กว้างกว่าเดิม ไม่ใช่ฉีกขาดให้ผิดมุมไปจากเดิม 3. ลักษณะการผ่อนคลายที่เป็นปกติที่เอื้อต่อการเดินของพลังงาน 4. ลักษณะใจที่นิ่งๆ ไม่กดดันตัวเอง
ในท่ายาก ควรจะมีความปกติเท่าๆ กับในท่าง่าย
สี่ข้อข้างต้นนี้เป็นตัวชี้วัดว่าเรานั้น “ถึง” อาสนะนั้นแล้วหรือยัง
ในอาสนะท่าง่ายๆ เราจะ "ถึง" อาสนะได้ง่ายกว่า
เมื่อถึงแล้ว ก็ทำความคุ้นเคยกับร่างกาย ลมหายใจ และความรู้สึกว่า
ความ "ถึง" นั้น รู้สึกอย่างไร และจำไว้เพื่อหาสภาวะนั้นให้เจอในท่าที่ยากขึ้น
โดยเฉพาะใน ข้อ 2 อันมักจะเป็นที่มาของการบาดเจ็บต่างๆ ในการฝึกโยคะ
ซึ่งเกิดจากการที่เราไม่รู้จักตัวเองดีพอในอาสนะท่าพื้นฐาน
แม้ว่าเราจะทำท่ายากๆ ได้ แต่ถ้าเราไม่รู้ตัวว่า
มุมองศาข้างในข้อต่อเรานั้นเกิดการ strain อยู่
การฝึกแบบนั้นเมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ถึงวันหนึ่งก็หนีไม่พ้นอาการบาดเจ็บ
อย่าลืม โยคะนั้นต้องไปด้วยกันทั้งกายและใจ
ถ้าไปแต่กาย ใจพะวงกับเรื่องไหน หรือเผลอหลับไปแล้ว (โดยเฉพาะท่าผ่อนคลายทั้งหลาย)
หรือถ้าไปแต่ใจ กายไม่ไปด้วย ได้แต่กัดฟันพยายามทำไป โดยเฉพาะในท่ายากๆ
ถึงจะทำได้ ถ่ายรูปเสร็จแล้วร่วง อันนั้นก็ไม่ใช่โยคะ
ในท่ายากๆ เราอาจจัดมุมกระดูกผิด (เพื่อให้ทำท่าให้ได้)
เพราะไม่รู้ว่ามุมที่ถูกของเรานั้นเป็นอย่างไร
ถ้าเราไม่ได้ใช้สติเรียนรู้มุมกระดูกของตัวเองในท่าที่ง่ายกว่านั้น
แม้ตาครูก็จัดได้ไม่ดีเท่ากับตาในของเรา
เมื่อเราอยู่กับอาสนะท่าง่ายๆ และทำความคุ้นเคย
กับความปกติของสี่ข้อด้านบนได้ดีแล้ว การขึ้นอาสนะท่าที่ยากขึ้นไป
ก็ทำให้เรามี “ภูมิคุ้มกัน” เป็นเครื่องมือในการสังเกตตัวเองว่า
เราเผลอทำท่าเหมือนโยคะ โดยไม่ได้ฝึกโยคะแล้วหรือเปล่า

Comments